การบูชาวัตถุมงคล

.
ข้าพเจ้าขอบูชา ครูบาอาจารย์ บรมครูของครูอาจารย์ทุกท่านองค์พ่อแก่ บรมครู ปู่ฤาษี108 ผู้ศักดิ์สิทธิ์ ผู้เรืองเวทย์ 

และอาจารย์ ฆราวาสผู้เรืองเวทย์ เกจิอาจารย์ทั้งหลาย ผู้เรืองฌาน เรืองเวทย์ ครูไสยเวทย์ทั่วประเทศ เขตแคว้น ครู

อาจารย์ผู้มีพระคุณและสร้างวัตถุมงคล ทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอบูชาท่านด้วยความเคารพนับถือท่านเป็นครูบาอาจารย์ 

ทั้งทางโลกและทางธรรม ขอดวงจิตดวงวิญญานของท่านทั้งหลายโปรดรับรู้ด้วยเถิด ข้าพเจ้าชื่อ(ชื่อของท่าน)……..

.ขอนำบทพระคาถาอันศักดิ์สิทธิ์นี้ ที่ ครูอาจารย์ได้ประสิทธิ ไว้ให้แล้วแก่ศิษย์ทั้งหลาย ไปใช้ให้บังเกิดประโยชน์ ขอ

ท่านครูบาอาจารย์เจ้าทั้งหลายเหล่านี้และครูบาอาจารย์เจ้าของพระคาถาโปรดอนุญาติด้วย และขออำนาจพระพุทธ 

พระธรรม พระสงฆ์ โปรดช่วยดลบันดาลนำกุศลของข้าพเจ้าตั้งแต่อดีตชาติถึงปัจจุบัน นำส่งมอบให้ท่านครูบาอาจารย์

เจ้า เทพเทวา ปู่ฤษีทั้ง 108 ท่านผู้มีพระคุณทั้งหลายที่เอ่ยถึงด้วยเถิด


คนจะปลุกพระ ประการแรกต้องมีสมาธิเป็นพื้นฐาน ถ้าไม่มีสมาธิอาจจะไม่ปรากฎผลอะไรเลย แต่ผู้ใดมีสมาธิดีจะปราก

ฎ จะทดสอบพลังของพระเครื่องได้ดี 

วิธีที่แนะนำไว้นั้น คือให้คาถาบริกรรมว่า 


นะมะพะทะ หรือ เตตีตุต๊ะ หรือ สุนะโมโล


เราบอกว่า เป็นคาถาปลุกพระเครื่องรางอื่นๆ 
 
วิธีทำ เบื้องต้น ทำกาย จิต วจีกรรมให้ผ่องแผ้ว บริสุทธิ์

 
แล้วอธิษฐานนั่งสมาธิ เอาพระเครื่องใส่ในมือหลวม ๆ สบายสบาย เดินสมาธิ(คือให้เกิดความปกติทางจิต อย่าให้


วอกแวก ขึ้น ๆ ลง ๆ ให้ราบเรียบและเดินไปในปกติอยู่เช่นนั้น)ช้า ๆ 
 
แล้วเริ่มบริกรรมช้า ๆ ก่อน นะมะพะทะ หรือ เตตีตุต๊ะ หรือ สึนะโมโล ว่าไปเรื่อย ๆ ทำใจสบาย ๆ แล้วจะเริ่มเคลิ้ม ตรงนี้


หมายถึงจิตกำลังเข้าภวังค์ และจะไปเชิ่อมกับคุณวิเศษภายในพระเครื่อง เครื่องราง ให้รักษาสติไว้ คือรู้ตัวว่าอยู่ใน

อาการเคลิ้มนั้นและให้ดำรงสภาวะเคลิ้มนั้นเดินสมาธิต่อไป พลังจากพระเครื่อง เครื่องราง ก็จะแผ่มาเชื่อมเข้าใน

ระหว่างนี้แหละ
 
ที่บริกรรมอยู่ช้า ๆ ก็จะเร่งเร็วขึ้น ๆ ระวัง ต้องรักษาสติให้รู้ตัวอยู่ให้ได้ว่าอะไรเป็นอะไรอยู่ แล้วมือจะสั่นขึ้น เกร็งและกำ


พระเครื่องแน่นขึ้น ต่อไปมือจะโยก ขึ้นลง ขึ้นลง ขึ้นลง เหงื่ออาจจะออกมาท่วมมือ หรือรักแร้ หรือขุมขนทั่วไป 
 
แค่นี้ก็คงเพียงพอแล้ว เพราะพลังแสดงออกมาให้เห็น พอสังเกตได้ด้วยสติสตังของเราเองว่าพลังขนาดใด ควรจะพอ 


หยุด หากมิเช่นนั้น พลังจะแสดงเกินไปกว่านี้ ตัวจะร้อน และการโยกจะแรง ต่อไปก็จะยงโย่ขึ้นโยกขึ้นโยกลง และที่

สุด ต้องเคลื่อนตัวเอง ถ้าเสียสติ ควบคุมสติไม่ได้แล้วก็จะเตลิดวิ่งไป เพราะนิ่งอยู่ไม่ได้แล้ว ต้องเคลื่อนไปตาม

อำนาจพลังนามธรรมที่มาแทรกคุมรูปธรรม คือกายของเรา ตอนนี้เพื่อน ๆ ที่อยู่ด้วยต้องเข้าปล้ำควบคุมตัวไว้เอาพระ

เครื่องเครื่องราง ออกจากมือ ก็จะหยุด 



 เป็นคาถาเรียกอาคม มาอยู่กับตัว ตรึงอาคม ไม่ให้เสื่อมไม่ให้ไปไหนครับ คำภาวนา คาถาโสมาเรสะ สะเรมา วิกรึงคะเร ( เรียกอาคมเข้าตัว) แต่ถ้าสาย ของหลวงพ่อประเทือง อติกกันโต
ตั้งนโม 3 จบ แล้วกล่าวว่า
"โส มา เร สะ" 3 จบ 
ใช้มือวนที่กระหม่อม แล้วตบลงที่กระหม่อม 
กลั้นใจว่า "อะวิกรึงคะเร" 
(แต่มีข้อห้ามในการใช้ เวลาตบกระหม่อมเราอย่าตบแรง เด๋วเซ เด๋วมึน และ เจ็บ )
*** นี่ก็อีกคาถา ที่น่าสนใจ ***
คาถาครอบตัวเองมาฝากคับ 
โอมกูจะเรียกพระมนต์กูเอยอันหนีไปจากตนกูมาเข้าตนกู โอมกูจะเรียกพระมนต์กูเอยอันหนีไปอยู่ป่ามาเข้าตนกู โอมกูจะเรียกพระมนต์กูเอยอันหนีไปอยู่ใต้ท้องพระแม่ธรณีมาเข้าตนกู โอมกูจะเรียกพระมนต์กูเอยอันหนีไปอยู่นอกฟ้าป่าหินมพานต์มาเข้าตนกู (นะโมโสทายะ)(โสมาเรสะ)(อะวิกรึงคะเร)
 
ขับเคลื่อนโดย Blogger.