ลิลิธ (Lilith) ราชินีแห่งรัตติกาล


ลิลิธ เรามักจะคุ้นเคยกันดีในนามของราชินีแห่งรัตติกาล แต่บางที ก็เรียกกันด้วยนามอื่น  เช่น ลิลี - Lili หรือ Lilu - ลิลู อันหมายถึงอสุรกายแห่งยามราตรี เรียกว่าความหมายผิดเพี้ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย

ลิลิธเป็นหญิงที่มีความงามที่ค่อนข้างจะออกไปทางน่ากลัวอย่างไม่สร่างซา
ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเธออายุเท่าไหร่ เนื่องจากกาลเวลาไม่สามารถสร้างรอยตำหนิให้แก่เธอได้

สาวๆหลายคนคงอิจฉาลิลิธแล้วสินะ ข้อด้อยเพียงอย่างเดียวของเธอก็คือ
ในบางเวลาท่อนขาอันเรียวงามของลิลิธจะเต็มไปด้วยขนอันยุ่บยั่ยเยอะจนมองไม่เห็นผิวเนื้อซึ่งเธอถือเป็นเรื่องน่าอับอายที่สุดในชีวิต ถ้าหากชายใดพบความลับของเธอเข้าคงสายเสียแล้ว หากเขาคิดจะนำไปบอกใคร

เชื่อกันว่า ลิลิธนี่แหละ คือ Mother of the Vampire ต้นตระกูลแห่งแวมไพร์ขนานแท้
ที่สืบเนื่องกันมานานหลายศตวรรษโดยติดต่อกันผ่านทางสายเลือด หล่อนสามารถหายตัวผ่านสิ่งกีดขวางทุกชนิด และไปปรากฏตัวยังอีกด้านหนึ่งได้เพื่อที่จะไปดูดเลือดเหยื่อ หรือไม่ก็สมสู่ล่อลวงผู้ชาย

ผู้ชายที่สมสู่กับเธอในความฝัน เมื่อตื่นมาจะรู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ราวกับว่าถูกผีดูดเลือดสูบเลือดออกไปจากตัวจนเหือดแห้งนอกจากพฤติกรรมชอบลักหลับผู้ชายแล้ว นิสัยของลิลิธที่คล้ายกับคนในยุคปัจจุบันคือ ถ้ำมอง หล่อนชอบหายตัวเข้าไปลอบดูสามีภรรยากุ๊กกิ๊กกัน และคอยขโมยน้ำเชื้อผู้ชายเพื่อนำไปสร้างเป็นอสุรกายตัวใหม่ ให้เป็นข้ารับใช้ของเธอตามคัมภีร์เก่าแก่กล่าวไว้ว่าพระเจ้าได้สร้างมนุษย์ผู้ชายคนแรกขึ้นจากดินซึ่งนั้นก็คือ "อดัม" 
และต่อมาก็ได้ใช้กระดูกซี่โครงของอดัมสร้าง "อีฟ" ขึ้นมา อดัมกับอีฟได้อาศัยร่วมกันอย่างมีความสุขที่สวนเอเดน จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่งพวกเขาก็ได้ถูกงูล่อล่วงให้กินผลไม้แห่งความรู้ที่เป็นของต้องห้าม ทั้งสองจึงต้องถูกขับไล่ไปอยู่ทางตะวันออกของเอเดนอดัมกับอีฟจึงได้ชื่อว่าเป็นมนุษย์คู่แรกบนโลกนี้
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่เล่าขานกันมาของศาสนาคริสต์ ทว่ายังมีเอกสารจารึกแห่งคาบาล่าที่มีการตีความไปอีกอย่างหนึ่งนั้นก็คือความเชื่อที่ว่า 

"ตอนที่พระเจ้าสร้างอดัมขึ้นจากดินนั้นในเวลาเดียวกัน ลิลิธ ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมา" 

จากความเชื่อนี้จึงถือได้ว่า ภรรยาคนแรกของ อดัมก็คือ ลิลิธ ส่วน อีฟ นั้นเป็นภรรยาคนที่ 2

ลิลิธเป็นคนไม่ยอมใครจึงปราถนาที่จะเป็นคู่ชายหญิงที่ทัดเทียมกับอดัมทว่าเมื่ออดัมกับลิลิธคิดจะมีสัมพันธ์กัน
ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ได้เกิดรอยร้าวขึ้นอดัมยืนกรานไม่ยอมรับที่จะทำตามความปราถนาที่อยากครองคู่กันเพียงสองคนกับลิลิธ 

ซึ่งอภัยให้ไม่ได้กับการที่ถูกผู้ชายกดขี่ จึงได้พยายามต่อต้านและหนีออกมาในที่สุด คนที่มาอยู่กับอดัมคนต่อมาก็คืออีฟ เธอเป็นผู้หญิงที่ว่าง่ายเชื่อฟังอดัมผิดกับลิลิธ แล้วหลังจากนั้นก็มีทัศนะต่างๆ มากมายเกี่ยวกับพวกเขาทั้งสองว่าลงเอยกันอย่างไร
ส่วนลิลิธนั้นบ้างก็มีความเชื่อว่าเธอได้ไปเป็นภรรยาของเจ้าแห่งฝันร้าย ลูซิเฟอร์ และได้ดื่มด่ำกับชีวิตรักที่มีอิสระโดยไม่ยอมอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ใดๆ  

บ้างก็ว่าลิลิธเธอได้ถูกพระเจ้าลงทัณฑ์ด้วยการโดนท่านขู่ว่าจะฆ่าลูกของเธอทุกวัน 100 คน แล้วบ้างก็ว่าลิลิธเธอได้สิ้นหวังในชีวิตจึงได้ทอดกายตนเองลงบนทะเลแดงเดือดเช่นกัน
ทว่าเหล่าเทวดาผู้สงสารในชะตากรรมของลิลิธจึงได้มอบ "พลังที่สามารถควบคุมโชคชะตาของเหล่าเด็กๆ" ให้กับเธอ 
พวกเหล่ามารดาทั้งหลายจึงพากันหวาดกลัวว่าพลังนั้นจะมีผลกระทบต่อลูกของตน ตอนที่ให้ลูกนอนจึงได้บ่นพึมพำเบาๆ ว่า "ลิลิธเอย เจ้าจงหายไปซะ" และถ้อยคำเหล่านี้ก็คือ" LULLABY (เพลงกล่อมเด็ก)"  
ที่โลกเรารู้จักจนถึงทุกวันนี้ถึงจะมีความเชื่อยังไงก็แล้วแต่ ลิลิธเธอเป็นผู้หญิงที่ได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระ ส่วนเหล่าลูกสาว "ลิลิมุ" ก็มีคนจำนวนมากมองว่าเป็นพวก "ซาคิวบัส" (ปีศาจฝันร้ายที่ดูดกลืนวิญญาณ)
ส่วนอดัมที่ตามตำนานกล่าวไว้ว่าเขาได้ทิ้งลิลิธไปเพราะเธอไม่ยอมเชื่อฟังตนแต่ที่จริงแล้วนั้นการที่ลิลิธได้หนีไปกลับเป็นความปรารถนาของเขาเอง เมื่ออดัมรู้ถึงชะตากรรมของตนเองที่จะถูกดูดกลืนไปกับความลุ่มหลง (กินผลไม้แห่งความรู้) 
ซึ่งถ้าหากทั้งสองอยู่ด้วยกันนั้นลิลิธจะต้องถูกชะตากรรมเดียวกันกับเขาเอง ซึ่งอดัมไม่อยากที่จะให้เป็นเช่นนั้นเขาจึงทำทุกอย่างเพื่อให้ลิลิธหลีกเลี่ยงสิ่งนี้เพราะอดัมอยากที่จะให้ลิลิธหญิงสาวที่ตนรักได้มีชีวิตอยู่อย่างเป็นอิสระและมีความสุขตลอดไป แต่น่าเสียดายที่อดัมไม่มีโอกาสที่จะให้ลิลิธได้รับรู้ถึงความปรารถนานี้ไปตลอดกาลย้อนกลับมาที่มุมมองของโซห์อาร์ ...ซึ่งได้กล่าวถึงความอ่อนแอของผู้ชายอย่างอดัมเขาคุกเข่าอ้อนวอนให้คนรักกลับคืน พระเจ้าส่งทูตสวรรค์สามองค์ไปพาลิลิธกลับมาแต่เธอไม่ยอมทำตาม
คำขอร้องนั้น ในที่สุดทูตสวรรค์จึงปล่อยให้ลิลิธใช้ชีวิตอย่างที่เธอต้องการ ในข้อแม้ว่าจะต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเกิดของเผ่าพันธุ์มนุษย์อีกทั้งนามของเธอก็จะไม่หลงเหลือให้กล่าวขวัญอีกต่อไปแล้ว
พระยะโฮวาห์ก็ได้มอบลิลิธให้เป็นของขวัญแก่ แซมมาเอล  (ซาตาน) เธอคือภรรยาคนแรกในจำนวนทั้งหมดสี่คนของของจอมปิศาจ

กระนั้น ในตำนานอื่นๆอีกหลายฉบับ เล่าถึงการแต่งงานระหว่างลิลิธกับจอมปิศาจแตกต่างกันออกไปโดยตำนานเหล่านั้นไม่ได้เล่าว่า เธอคือของขวัญจากพระเจ้าหากบอกว่าซาตานพบและตกหลุมรักลิลิธระหว่างที่เธอกำลังร่อนเร่ไปอย่างไม่รู้ทิศทางแต่เรื่องหนึ่งที่ทุกตำนานเล่าเหมือนกันก็คือในการสมรสครั้งใหม่ เธอได้รับบทพิศวาสอย่างที่ใจปรารถนาไม่ว่าเธอหรือเขาล้วนมีสิทธิเท่าเทียมในการอยู่เบื้องบนหรือเบื้องล่างของอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งวัฒนธรรมการสับเปลี่ยน
บทบาททางเพศนี้ สามารถอธิบายพาดพิงถึงความเชื่อในอีกตำนานหนึ่งที่ว่า 
ลิลิธมีฮอร์โมนของเพศชายอยู่ในตัวเธอด้วย
ลิลิธคงจะเป็นตำนานอันเก่าแก่เกินไปของบรรดาชาวยิวและคริสเตียน ในขณะที่เรื่องราวของเธอปรากฎมากมายและโดดเด่นตลอดระยะเวลาในตำนานโบราณหลากหลายฉบับ เช่น ในความเชื่อของอารยธรรมซูมาเรียน 
และบาบิโลเนียน ราว 3,500 ปีก่อนคริสต์กาล เธอปรากฎในตำนานฐานะจอมปิศาจลามาซตู (Lamashtu) 
ผู้ถูกเนรเทศออกจากสรวงสวรรค์ เนื่องจากเพราะความร้ายกาจของตนเอง
ในตำนานฉบับหนึ่งบรรยายว่า จริงๆแล้ว ลิลิธคือ มนุษย์คนแรกสุดที่พระยะโฮวาห์ทรงสร้างขึ้น โดยอยู่ในฐานะคนสองเพศในร่างเดียว เธอเป็นให้กำเนิดอดัม ผู้ชายคนแรกหลังจากนั้นจึงค่อยแต่งงานกับเขา
ชื่อลิลิธปรากฎเพียงครั้งเดียวในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับพันธสัญญาเก่า(ที่ชำระแล้ว) 
ในอิสยาห์ (Isiah) บทที่ 34 ข้อ 14 

"ชื่อสัตว์ร้ายแห่งทะเลทรายจะมาพบกับอสูรร้ายของแผ่นดิน ผู้นำของคนบาปจะร่ำร้องต่อผู้ตามของเขา
--ลิลิธจะรวมอยู่ในคนกลุ่มเหล่านั้น ณ ที่แห่งนั้นคือที่ที่เธอจะอาศัยอยู่ได้" 

คณะกรรมการตีความพระคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับเยรูซาเล็มใส่ชื่อของเธอลงไปในโยบ (Job)
บทที่ 18 ข้อ 14-15 ด้วย 

"มนุษย์ผู้บาปหนา จะถูกลักพาจากที่อาศัย แล้วลากไป ณ เบื้องหน้าราชาแห่งความน่าสะพรึงกลัว
ลิลิธจะรวมอยู่ในคนกลุ่มนั้นด้วย ลมหายใจของเธอปกคลุมเป็นส่วนหนึ่งในกลุมคนประเภทเดียวกับเธอ" 

หากพระในศาสนายิวคัดค้านการตีความเช่นนี้ โดยอ้างว่า คำเรียกลิลิธไม่ได้มีความหมายบ่งชี้ถึงหญิง
คนหนึ่งคนใด แต่อุปมาเป็นคนซึ่งไม่เป็นที่ปรารถนาและพวกนอกรีต เช่นเดียวกับที่พวกคริสเตียนเชื่อว่า 
ลิลิธมิใช่คนหากแต่เป็นเครื่องล่อลวงใจมนุษย์ของจอมปิศาจ 
ส่วนในตำนานอื่นๆของซูมาเรียน เธอมีชื่อหลายอย่าง อาร์ดัท ลิลิ่ (Ardat Lili) หรือ ลีลีตู (Lilitu) เทพยดาผู้เป็นคู่ครองของจอมปิศาจ ลีลู(Lilu) สำหรับตำนานบทนี้เธอถูกวาดภาพเป็นหญิงปราศจากศีลธรรม เต็มไปด้วย ตัณหาราคะ คือหญิงสวยยวนนั่วใจในเรื่องเพศ เธอจะใช้มารยาล่อลวง ชายขณะหลับไหล ทั้งยังชอบสังหารเด็กๆ 

ลิลิธมักถูกสร้างภาพให้เป็นปิศาจ บางครั้งได้รับการบรรยายเป็นสิ่งใชีวิตชนิดหนึ่ง 
รูปร่างเหมือนงูใหญ่มีปีกแต่มีศีรษะเป็นผู้หญิง 
ทุกๆคราวที่ลิลิธเกิดใหม่ เธอคือเครื่องหมายแห่งพลังของเพศหญิง มักจะถูกขัดขวางทำลายจากกฎเกณฑ์ของสังคม(ที่ตั้งขึ้นโดยผู้ชาย) ผลสุดท้ายมักต้องไปหลบเร้นตนเงียบเชียบในเงามืด กระนั้น เธอยังคงอันตรายพอที่จะสั่นคลอนสังคมได้บางส่วน ณ ยุคปัจจุบัน ลิลิธกลายเป็นคำเรียกและเครื่องหมายของกลุ่มเฟมินิสต์ ผู้หญิงที่เชื่อว่าเธอเทียบเท่าชายในทุกกรณี 
"ลูกสาวของซาตาน หญิงสาวในเงามืด นั่นคือลิลิธ ผู้ได้รับฉายาไอซิส แห่งลุ่มน้ำไนล์" วิคเตอร์ ฮิวโก ผสมผสานเธอเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับเทพธิดาผู้ให้กำเนิดอารยธรรมอียิปต์โบราณ 
ลิลิธถูกพิพากษาให้อยู่ที่ก้นบึ้งของขุมนรก และด้านมืดของจิตใจตลอดไปเธอต้องทุกข์ทรมานเพียงไรกับชะตากรรมนี้ บางทีเธออาจไม่ได้น่ากลัวหรือโหดร้ายอย่างที่ใครๆว่าไว้เลยหน้าที่ของลิลิธที่ทำเป็นประจำก็คือ การให้กำเนิดอสูรกายและวิญญาณชั่วร้ายใหม่ๆ
เพื่อให้มาเป็นลูกน้องของลูซิเฟอร์ โดยการเข้าไปยั่วยวนพวกหนุ่มๆในความฝัน
เพื่อให้ชายหนุ่มเหล่านั้นยอมตกเป็นของเธอ(คงรู้กันนะว่าทำอะไร) 

แล้วจากนั้นเธอก็จะสามารถให้กำเนิดอสูรกายใหม่ๆขึ้นมาได้ และ ในหมู่อสูรกายหลายร้อยชนิดที่เกิดมาจากลิลิธ มีอยู่สองชนิดที่มีความเหมือนลิลิธมากเรียกได้ว่าเป็นลูกเป็นแม่กันได้เต็มปากเลยทีเดียว นั้นคือ อินคิวบัส และ ซัคคิวบัส 

cradit :: dek-d.com
ขับเคลื่อนโดย Blogger.