ผงวิเศษ 5 ประการ และวิธีการปลุกเสก (จากหนังสือของตรียัมปวาย)
พุทธาคมกรรมวิธี
หลวงวิจิรวาทาการ กล่าวไว้ว่า
“เราเชื่อว่าคนไร้การศึกษาเ ท่านั้นที่เชื่อเรื่องคาถาอ าคม แต่ต้องเปลี่ยนความคิด เพราะ สมเด็จพระวันรัต เขมจารีมหาเถระวัดมหาธาตุ อาจารย์ของข้าพเจ้า จบเปรียญ 9 ประโยคเป็นผู้จัดการศึกษาให ้วัดมหาธาตุ ท่านไม่เชื่อเรื่องเวทย์มนต ์คาถา หาว่าลวงโลก ต่อมามีการสังคยนาพระไตรปิฎ กท่านรับภาระจัดการเรื่องหม วด พระอภิธรรม ซึ่งเป็นหมวดใหญ่ หลังชำระเสร็จสิ้น สังเกตุท่านเปลี่ยนไปท่านบอ กว่าแต่ก่อนเข้าใจผิดต่อมาย อมประพรมน้ำมนต์ และเสกเป่าให้คนทั่วไป
ผงวิเศษ 5 ประการคือ ผงอิธะเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และ ผงตรีนิสิงเห
ผงทั้งห้านี้ผงวิเศษ 5 ประการ มิได้เกิดจากการนำผง 5 ชนิดมารวมกัน แต่เกิดจากผงชุดเดียวกันผ่า นกรรมวิธี ถึง 5 ครั้ง
ขั้นแรก
ทำดินดสอผงวฺเศษ ด้วยส่วนผสม คือ ดินโป่ง 7 โป่ง ดินท่า 7 ท่า ดินเสาหลักเมือง 7 หลักเมือง ขี้เถ้าไส้เทียนบูชาพระประธ านพระอุโบสถ ดอกกาหลง ยอดสวาท ยอดรกซ้อน ขี้ไคลเสมา ขี้ไหคลประตูวังขี้ไคลเสาตะ ลุงช้างเผือก ราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ พลูร่วมใจ พลูสองหางกระแจะตะนาว จ้ำมันเจ็ดรส และดินสอพอง มาผสมกัน ป่นละเอียดเจือน้ำ ปั้นเป็นแท่งดินสอ
กรรมวิธีทำผงวิเศษ
ผงปถมัง กระทำในพระอุโบสถ เตรียมเครื่องสักการะหน้าพร ะประธาน กล่าวคาถาอัญเชิญครู ประกาศอัญเชิญเทพยดาทำประสะ น้ำมนต์พรมตัว เรียกอักขระเข้าตัว และอัญเชิญครุเข้าตัวผงปถมั ง เป็นผงเริ่มต้น นำดินสอผงวิเศษมาเขียนสูตร และลบออกเป็นผงปถมังมีอานุภ าพ หลายด้าน แต่หนักไปทาง คงกรพันชาตรีมหาอุด แคล้วคลาด กำบังล่องหนและป้องกันภูตผี ปีศาจและคุณไสย
ผงอธิเจ นำผงปถมังมาปั้นเป็นดินสอ แล้วเขียนสูตร ลบผงเป็นผงอธิเจมีอานุภาพด้ านเมตตามหานิยมอย่างสูงรักษ าโรคภัยไข้เจ็บ
ผงมหาราช นำผงอธิเจ มาปั้นเป็นดินสอ แล้วเขียนสูตร ลบผงเป็นผงมหาราช มีอานุภาพด้านเมตตามหานิยมอ ย่าสูงป้องกันและถอนคุณไสย และแคล้วคลาด
ผงพุทธคุณ นำผงมหาราช มาปั้นเป็นดินสอ แล้วเขียนสูตรลบผงเกี่ยวกับ พุทธคุณนานาประการ ให้อานุภาพด้านเมตตามหานิยม อย่างสูง กำบัง สะเดาะ และล่องหน
ผงตรีนิสังเห นำผงมหาราช มาปั้นเป็นดินสอ แล้วเขียนสูตรลบผงเกี่ยวกับ ยันตร์ตรีนิสิงเหหรือยันตร์ นารายณ์ถอดรูป แล้วมียันต์พระควัมบดี และยันต์ตราพระสีห์ อานุภาพด้าน เมตตามหานิยม ป้องกันถอนคุณไสย และภูตผี ป้องกันสัตว์เขี้ยวเล็บงา รักษาโรคอุบัติภัยอันตรายทั ้งปวง
ความเชื่อในด้านอานุภาพ ของผงปถมัง
ตามตำราทางไสยศาสตร์กล่าวว่ า อานุภาพของผงปถมังหนักไปทาง ด้านอิทธิฤทธิ์ อยู่ยงคงกระพันชาตรี จังงังกำราบศัตรูหมู่ปัญจาม ิตร สะกดทั้งมนุษย์และสัตว์ให้ต กอยู่ในอำนาจ และเป็นกำบังล่องหนหายตัว ถึงทางเมตตามหานิยมก็ใช้ได้ เหมือนกัน ใช้ผสมทำเครื่องรางเมื่อพกพ าติดตัวทำให้อยู่ยงคงกระพัน หรือนำผงทาตัวเป็นล่องหนกำบ ังหายตัวได้ โบราณาจารย์ได้กล่าวอุปเท่ห ์สืบต่อกันมาว่า อันผงปถมังที่ทำถึงเพียงองก ารมหาราพน้อยใหญ่นั้น ถ้าเอาผงนั้นไปโรยใส่เข้าที ่ไหน เช่น โรยใส่ใต้ถุนบ้านเรือน มิช้านานบ้านเรือนนั้นจะยุบ หายกลายเป็นป่าไป ถึงบ่อน้ำที่มีน้ำเต็มเมื่อ เอาผงปถมังโรยเข้ามิช้าน้ำก ็จะถึงกับแห้งเหือดหายไป ถ้านำไปทาที่เสาเรือนใครอาจ ทำให้คนบนเรือนถึงกับเป็นบ้ าได้ เมื่อทำผงสำเร็จถึงสูญนิพพา นแล้วตำราให้นำเครื่องยามาผ สมปั้นแท่ง มีกฤษณา กะลำพัก ขอนดอก จันทน์ทั้งสอง ชะมด พิมเสน ฯลฯ เป็นอาทิ โบราณนิยมนำผงปถมังมาผสมทำพ ระเครื่องราง พระเครื่องที่มีชื่อเสียงหล ายสำนักก็สร้างขึ้นโดยมีส่ว นผสมของผงชนิดนี้ หรือนำผงไปผสมหมึกสำหรับสัก ยันต์ที่กระหม่อมตามความเชื ่อว่าจะทำให้อยู่ยงคงกระพัน
อนึ่ง คัมภีร์ปถมังแต่เดิมมีอยู่ห ลายตำรับ แต่ละตำรับอาจมีวิธีการทำแต กต่างกันไปไม่เหมือนกัน โดยหลักแล้วคือเริ่มที่ทำตั วนะ เมื่อสำเร็จเป็นนะพินทุแล้ว ก็อาจแยกออกไปหลายแบบ เป็นคัมภีร์ปถมังภาณวาร ปถมังองควิฏฐาร หรือตำรับอื่น ๆ ที่มีวิธีการต่างกันไปอีกก็ ได้ ปถมังเป็นความเชื่อโบราณของ ไทยซึ่งปัจจุบันหาผู้ทึ่สืบ ทอดความรู้ในวิชานี้ไว้ได้ม ีอยู่น้อยมาก
สูตรการเขียนผงปถมังของเทพย ์ สาริกบุตร คติโบราณถือสืบกันมาว่า ปถมังเป็นคัมภีร์แรกที่ผู้ใ คร่ศึกษาวิชาเวทมนตร์พึงจำเ ป็นต้องเรียนรู้ เพราะเมื่อเริ่มเรียนรู้สูต รในคัมภีร์ปถมังได้แล้ว ก็จะสามารถหัดลงเลขยันต์ต่า ง ๆ ต่อไปได้ กล่าวกันว่าที่มาของคัมภีร์ ปถมังนี้ เริ่มแรกเมื่อครั้งต้นกัป โลกนี้ยังเป็นที่ว่างเปล่าอ ยู่ พื้นแผ่นดินยังเพิ่งจะงวดจา กน้ำ เริ่มจะเกิดเป็นพื้นดินขึ้น มา ท้าวสหัมบดีพรหมได้เล็งญาณล งมาแลเห็นดอกบัวโผล่พ้นระลอ กน้ำขึ้นมา ๕ ดอก ก็ทราบด้วยญาณว่าในกัปนี้จะ บังเกิดพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาตรัสรู้ ๕ พระองค์ เป็นกำเนิดแห่งภัทรกัปอันปร ะเสริฐยิ่ง แล้วจึงได้หยิบหญ้าคาทิ้งลง มาบนพื้นน้ำ น้ำนั้นก็งวดเป็นแผ่นดินขึ้ น มีกลิ่นหอม เหล่าพรหมได้กลิ่นง้วนดินต่ างลงมาเสพกิน ติดรสง้วนดินนั้นมิอาจกลับค ืนสู่พรหมโลกได้ จึงได้ตั้งรกรากเป็นเผ่าพัน ธุ์มนุษย์สืบมาจนทุกวันนี้ ฉะนั้นก่อนจะเล่าเรียนคัมภี ร์ปถมังจึงต้องกล่าวคำนมัสก ารสหัมบดีพรหมดังนี้
อังการะพินทุนาถังอุปปันนัง พรหมาสหัมปตินามะ อาทิกัปเป สุอาคะโต ปัญจะปทุมมังทิสวา นะโมพุทธายะวันทะนังฯ
คัมภีร์ปถมังเริ่มแรกด้วยกา รทำพินทุ คือแววกลม ถือเป็นปฐมกำเนิด จากนั้นจึงแตกเป็นทัณฑะ เภทะ อังกุ และสิระตามลำดับ สำเร็จเป็นนะปถมังพินทุ เวลาทำใช้แท่งดินสอพองเขียน ลงบนกระดานชนวน มีการเรียกสูตรบริกรรมคาถาก ำกับตลอด จนสำเร็จเป็นนะปถมัง มีการนมัสการและเสกตามลำดับ ขณะทำมีขั้นตอนและวิธีการที ่สลับซับซ้อนพิสดารมาก ผู้สนใจควรศึกษาจากคัมภีร์ป ถมังโดยตรง เนื้อหาของคัมภีร์ปถมังนี้ม ีทั้งสิ้น ๙ วรรค หรือ ๙ กัณฑ์ แต่ละกัณฑ์เป็นวิธีการทำผงเ พื่อฝึกจิตอย่างพิสดารต่างก ันไป โดยทุกวรรคหรือทุกกัณฑ์จะเร ิ่มต้นด้วยนะปถมังพินทุ จากนั้นจะแยกแยะไปเป็นอุณาโ ลม อุโองการ องค์พระภควัม หัวใจพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ ฯลฯ ต่างกันไปในแต่ละวรรค แต่ทุกวรรคจะจบที่สูญนิพพาน คือ นิพพานัง ปรมัง สุญญัง เหมือนกันทั้งสิ้น ขณะทำผู้ทำจะใช้จิตเพ่งอักข ระ มือเขียน พร้อมบริกรรมคาถาอย่างต่อเน ื่องจนจิตสงบเป็นเอกัคคตาสม าธิ เมื่อจบสูตรแล้วจึงเอามือลบ อักขระบนกระดาน กล่าวกันว่าหากจิตเป็นสมาธิ แน่วแน่ ผงดินสอพองบนกระดานชนวนนั้น บางทีก็จะร่วงหล่นหรือทะลุล อดแผ่นกระดานลงไปอยู่เบื้อง ล่างได้ เรียกว่าผงปัดตลอดหรือผงทะล ุกระดาน เป็นของวิเศษมีอานุภาพยิ่งน ัก โดยเฉพาะปถมังวรรคที่ ๙ ซึ่งเป็นวรรคสุดท้ายที่นับว ่าพิสดารและสำคัญมาก ด้วยการทำถึงขั้นมหาไวย มหาเมฆ มหานิล มหาคลาด มหาแคล้ว มหาอุทัย จนถึงมหาราพย์น้อยใหญ่ จะมีอานุภาพอภินิหารมาก ตามตำนานในวรรณคดีเล่าว่าขุ นแผนก็เป็นผู้ที่สำเร็จปถมั งวรรค ๙ นี้ ซึ่งผู้สำเร็จจะเรืองวิทยาค มมีความอยู่ยงคงกระพันจนถึง ล่องหนหายตัวได้
จากเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ซึ่งสะท้อนภาพวิถีชีวิตในสั งคมไทยโบราณไว้หลายประการ รวมถึงการศึกษาเล่าเรียนของ กุลบุตรไทยแต่ครั้งก่อน ที่นอกจากจะศึกษาวิชาทางหนั งสือแล้วยังต้องฝึกหัดวิชาท างจิตควบคู่ไปด้วยกัน และวิธีการฝึกจิตด้วยการหัด ลงผงนี้ก็คงเป็นสิ่งที่มีปร ากฏอยู่ไม่น้อยในสังคมไทยยุ คก่อน ดังปรากฏเรื่องในเสภาว่าเมื ่อครั้งที่ขุนแผนไปเรียนวิช าอยู่กับพระอาจารย์คง ที่วัดแคนั้น พระอาจาย์คงได้สอนทั้งวิชาอ ยู่ยงคงกระพัน การผูกหุ่นพยนต์ และการทำผงปถมัง แต่ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก ็คือจากเสภาตอนกำเนิดพลายงา ม เมื่อพลายงามได้เรียนหนังสื อขอมหน้งสือไทยจนแตกฉานสามา รถอ่านเขียนได้ดีแล้ว จึงเริ่มศึกษาวิชาทางจิตหรื อไสยศาสตร์ และเริ่มศึกษาจากคัมภีร์ปถม ังเป็นต้นไป ดังบทกลอนว่า
อันเรื่องราวกล่าวความพลายง ามน้อย ค่อยเรียบร้อยเรียนรู้ครูทอ งประศรี
ทั้งขอมไทยได้สิ้นก็ยินดี เรียนคัมภีร์พุทธเพทพระเวทม นตร์
ปถมังตั้งตัวนะปัดตลอด แล้วถอนถอดถูกต้องเป็นล่องห น
หัวใจกริดอิทธิเจเสน่ห์กล แล้วเล่ามนต์เสกขมิ้นกินน้ำ มัน
อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ผู้ชำนาญทางไสยศาสตร์และโหร าศาสตร์คนสำคัญของไทย ได้อรรถาธิบายเรื่องการทำผง ไว้ในคัมภีร์พุทธศาสตราคมว่ า "...การทำผงนั้นเป็นการหัดท ำสมาธิขั้นแรกอย่างเอกอุ กระทำพร้อมกันทั้งองค์ ๓ คือทางกาย ใช้มือขีดเขียนตัวอักขระลงไ ป พร้อมกับทางวาจา ซึ่งบริกรรมท่องบ่นสูตรและค าถาที่ทำต่าง ๆ ไปพร้อมกับอาการกิริยาที่เข ียน ทางใจก็ต้องสำรวมควบคุมเพ่ง เล็งตัวอักษรมิให้เขียนผิดพ ลาด...นับว่าเป็นเครื่องล่อ ในการหัดทำสมาธิเป็นอย่างดี เพราะมิใช่แต่จะเขียนอย่างเ ดียว พอเขียนเสร็จบังเกิดขึ้นแล้ ว ก็ลบเสียบังเกิดเป็นขึ้นใหม ่ต่อไปอีก เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปฉะนี้ สลับกันไป จนท้ายที่สุดถึงองค์พระและล บเข้าสู่สูญนิพพาน..." ผงปถมังนี้เมื่อทำตัวนะปถมั งสำเร็จแล้ว ต่อมาคือฝึกหัดเพ่งจนเกิดเป ็นนิมิตในลักษณะอย่างอุคคหน ิมิตและปฏิภาคนิมิต เพราะโดยแก่นแท้แล้วหลักการ ทำผงของไทยโบราณก็คือการฝึก สมาธิที่ประยุกต์ขึ้นตามแนว ทางของสมถกรรมฐาน ซึ่งหากพิจารณาให้ถ่องแท้จึ งจะเห็นถึงหลักไตรลักษณ์ ในความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ดังเช่นผงที่กำเนิดขึ้นและล บดับสู่นิพพานไปบนกระดานชนว นนั่นเอง
ผงอิทธิเจ
อิธะเจ หรือ อิทธิเจของเทพย์ สาริกบุตร เป็นวิชาทางไสยศาสตร์ว่าด้ว ยการทำผงตามคัมภีร์อิธะเจ ซึ่งเป็นหนึ่งในคัมภีร์หลัก ของระบบไสยศาสตร์ไทยโบราณ อันประกอบด้วยคัมภีร์ปถมัง อิธะเจ ตรีนิสิงเห และมหาราช
นอกจากนั้นชื่อวิชาอิธะเจยั งปรากฏอยู่ในเสภาขุนช้างขุน แผนตอน พลายงามเรียนวิชาด้วย เนื้อหาของวิชาอิธะเจคือการ ทำผง ด้วยการตั้งตัวตามสูตรบาลีม ูลกัจจายน์ ซึ่งเป็นระบบบาลีไวยากรณ์ให ญ่ที่ปัจจุบันได้ล้มเลิกไป
อิธะเจมีหลายตำรับด้วยกัน แต่ที่เป็นหลักสำคัญจะตั้งต ัวด้วย อิทะ อิติ อิติ อัสสา อุทัง อะหัง อัคคัง อะหัง อะหัง อิถัง อัมมะ อัสสา จากนั้นจึงกระทำตามสูตรสนธิ โดยอ้างสูตรตามคัมภี์บาลีไว ยากรณ์จนสำเร็จเป็น อิธเจตโสทฬฺหํคณฺหาหิถามสา เป็นอันขาดตัวในสูตรสนธิ
ผงที่ได้จากการเขียนและลบอั กขระตามคัมภีร์อิธะเจ เรียกว่าผงอิธะเจ เชื่อว่ามีอานุภาพทางเมตตาม หานิยม เป็นเสน่ห์โดยเฉพาะแก่สตรีเ พศ
สูตรการทำผงอิธะเจ ของเทพย์ สาริกบุตร
ผงอิธะเจ เป็นวิชาไสยศาสตร์ไทยโบราณอ ย่างหนึ่ง วิธีทำเริ่มต้นจากจัดเครื่อ งบูชาคำนับครูมีดอกไม้ธูปเท ียนอย่างละ ๕ หัวหมู บายศรีปากชาม เครื่องกระยาบวช มีขนมต้มขาว ขนมต้มแดง มะพร้าวอ่อน กล้วยน้ำไท เป็นต้น และเงินบูชาครู
จากนั้นผู้กระทำกล่าวคำนมัส การตามตำรา เมื่อสักการบูชาครูเรียบร้อ ยแล้ว จึงเริ่มทำผง การทำผงอย่างโบราณคือใช้ดิน สอพองปั้นเป็นแท่งขนาดพอจับ ได้ แล้วบริกรรมเขียนอักขระลงบน กระดานชนวน ขณะที่เขียนอักขระแต่ละตัวใ ห้บังเกิดขึ้น ผู้ทำจะต้องบริกรรมคาถา (เรียกสูตร) ตามที่บังคับไว้ในตำราทุกคร ั้งไป
สำหรับแท่งดินสอที่ใช้เขียน ผงนี้บางสำนัก อาจระบุส่วนผสมต่างกันไปก็ไ ด้ เช่น อาจผสมไคลโบสถ์ ไคลเสมา ไคลพระศรีมหาโพธิ์ ดินเจ็ดโป่ง เจ็ดป่า ดอกรักซ้อน ยอดสวาด กาหลง หรือเครื่องหอมอื่น ๆ บางชนิดผสมลงไปในดินสอพองอี กด้วยก็ได้
การทำผงอิธะเจจะอ้างสูตรพระ บาลีในคัมภีร์มูลกัจจายนะ ซึ่งเป็นสูตรตามคัมภีร์ไวยา กรณ์ใหญ่ ซึ่งปัจจุบันหลักสูตรปริยัต ิธรรมแผนกบาลีได้ยกเลิกไป
สูตรมูลกัจจายนะนี้ทางไสยศา สตร์นับถือว่ามีอานุภาพศักด ิสิทธิ์มาก ผงอิธะเจดำเนิดตามแนวสูตรดั งกล่าว เมื่ออ้างสูตรเขียนและลบจนข าดตัวในสูตรสนธิ กล่าวคือเขียนและบริกรรมคาถ าและเสกจนสำเร็จดีแล้ว จึงลบอักขระบนกระดานชนวนออก มา
ผงดินสอพองที่ได้จากการเขีย นและลบตามสูตรคาถาอาคมในคัม ภีร์อิธะเจนี้ เรียกว่า ผงอิธะเจ มีอานุภาพทางเสน่ห์แก่สตรีเ พศยิ่งนัก ตามตำรากล่าวว่าหากใส่ลงในอ าหารให้หญิงกิน ย่อมรักชายผู้นั้นจนวันตาย
ผงนี้เพียงทิ้งให้ถูกตัวผู้ ใด ผู้นั้นก็เกิดงงงวยหลงตามเร ามา เป็นที่สุดของวิชาเสน่ห์โบร าณ คาถาอิธะเจ ๑๓ ตัวคือ อิธะเจตะโสทัฬหังคัณหาหิถาม ะสาฯ
ผงอิธะเจนี้เมื่อทำสำเร็จแล ้วจะต้องผสมเครื่องยาและปั้ นเป็นแท่งเก็บไว้ โดยมากนิยมนำไปสร้างพระ ที่มีชื่อเสียงคือพระปิดตาห ลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ก็ผสมผงอิธะเจนี้ด้วย อานุภาพของผงอิธะเจมีทั้งเส น่ห์ เมตตา และอิทธิฤทธิ์ทางแคล้วคลาดค งกระพัน แต่จะเน้นหนักไปในทางเสน่ห์ แก่สตรีเพศมากที่สุด
สูตรเขียนผงอิทธิเจและผงปถม ํของพระครูสาทรพัฒนกิจ
ผงอิทธิเจและผงปถมัง เป็นผง ใช้สำหรับสร้างพระพิมพ์ ประกอบด้วยสูตรการเขียนผง ผงอื่นๆ เช่น ว่านนางกวัก ว่านเพชรน้อย ว่านเพชรใหญ่ ว่านเพชรกลับ เศษพระชำรุด ใบลานที่เขียนพระไตรปิฎกนำม าเผาเป็นถ่าน
สูตรเขียนผงอิทธิเจและผงปถม ํงของวัดระฆัง
สูตรผงปถมํ ของวัดระฆัง คือ วิธีการสร้างผงวิเศษมีวิธีด ังนี้ การบริการพระคาถา เขียนสูตร ชักยันต์ด้วยชอล์คลงบนกระดา ษชนวน เขียนแล้วลบ ลบแล้วเขียนใหม่ทำเช่นนี้นั บเป็นร้อยครั้ง จะได้เศษชอล์คจากการลบ
ซึ่งถือว่าเป็นผงศักดิ์สิทธ ิ์ที่เกิดจากการตั้งจิตบริก รรมพระเวทย์ ในขณะที่เขียนให้ครบถ้วนตาม จำนวนที่พระเวทย์ในแต่ละบทก ำหนดไว้ ขั้นผงที่ได้ออกมาเป็นผงที่ ได้ออกมาเป็นผงที่มีชื่อ “ ปถมัง ”
เมื่อได้ผง “ ปถมัง ” แล้ว นำผงนี้มาปั้นเป็นดินสอ ตากแห้ง แล้วนำแท่งดินสอชอล์ดที่เกิ ดจากผงปถมัง มาเขียนสูตรพระเวทย์อีกบทหน ึ่งเขียนแล้วลบ ทำซ้ำกันตามจำนวนครั้งที่พร ะเวทย์บทใหม่กำหนด จนเกิดผงชอล์ดครั้งใหม่ ที่เรียกว่า “ ผงอิธะเจ ”
นำผงอิธะเจมาปั้นเป็นแท่งชอ ล์ด เขียนสูตรพระเวทย์อีก เขียนแล้วลบ ลบแล้วเขียนเช่นนี้จนได้ ผงมหาราช แล้วก็ผงมหาราช กระทำเช่นเดียวกับขั้นตอนกา รทำตอนการผงอื่นๆ
หากแตกต่างกันที่สูตรในการเ ขียน อักขระเลขยันต์ และจำนวนครั้งที่ถือเป็นเฉพ าะแต่ละสูตรจนได้ ผงพุทธคุณ และสุดท้ายคือ ผงตรีนิสิงเห
นำผงตรีนิสิงเห อันเกิดจากหลอมรวมสูตรทั้ง ๕ มาเป็นหนึ่งเดียวจากนั้นสมเ ด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังษี ) จึงนำผงวิเศษนี้มาผสมรวมกัน กับเปลือกหอย ที่บดหอยที่บดละเอียดอันเป็ นส่วนผสมหลัก
นอกจากนี้ก็จะมีข้าวสุก ดินสอพอง กล้วย โดยมีน้ำตังอิ๊วเป็นตัวประส านส่วนผสมเหล่านี้ จากนั้นจึงนำพระที่ผสมเสร็จ แล้วนั้น กดลงในแม่พิมพ์
ผงมหาราช มีอานุภาพทางเสน่ห์ ชายเห็นชายทัก หญิงเห็นหญิงรัก เหมาะสำหรับการค้าขาย และเข้าหาผู้ใหญ่ จะได้รับการเอ็นดูให้การส่ง เสริมได้ดีในราชการและธุรกิ จ
ผงพุทธคุณ มีอานุภาพป้องกันสิ่งอัปมงค ล อาถรรพณ์และไสยศาสตร์สายดำ ป้องกันทำคุณไสย มีอิทธิพลล้ำเลิศทางด้านแคล ้วคลาดปลอดภัย ครอบคลุมไปถึงด้านเมตตามหาน ิยมและมหาอำนาจ
ผงตรีนิสิงเห มีอิทธิคุณทางด้านมหาอำนาจ สามารถล้างอาถรรพณ์ น้ำมันพราย สยบอิทธิฤทธิ์ของภูติผีปีศา จได้ดียิ่ง
หลวงวิจิรวาทาการ กล่าวไว้ว่า
“เราเชื่อว่าคนไร้การศึกษาเ
ผงวิเศษ 5 ประการคือ ผงอิธะเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และ ผงตรีนิสิงเห
ผงทั้งห้านี้ผงวิเศษ 5 ประการ มิได้เกิดจากการนำผง 5 ชนิดมารวมกัน แต่เกิดจากผงชุดเดียวกันผ่า
ขั้นแรก
ทำดินดสอผงวฺเศษ ด้วยส่วนผสม คือ ดินโป่ง 7 โป่ง ดินท่า 7 ท่า ดินเสาหลักเมือง 7 หลักเมือง ขี้เถ้าไส้เทียนบูชาพระประธ
กรรมวิธีทำผงวิเศษ
ผงปถมัง กระทำในพระอุโบสถ เตรียมเครื่องสักการะหน้าพร
ผงอธิเจ นำผงปถมังมาปั้นเป็นดินสอ แล้วเขียนสูตร ลบผงเป็นผงอธิเจมีอานุภาพด้
ผงมหาราช นำผงอธิเจ มาปั้นเป็นดินสอ แล้วเขียนสูตร ลบผงเป็นผงมหาราช มีอานุภาพด้านเมตตามหานิยมอ
ผงพุทธคุณ นำผงมหาราช มาปั้นเป็นดินสอ แล้วเขียนสูตรลบผงเกี่ยวกับ
ผงตรีนิสังเห นำผงมหาราช มาปั้นเป็นดินสอ แล้วเขียนสูตรลบผงเกี่ยวกับ
ความเชื่อในด้านอานุภาพ ของผงปถมัง
ตามตำราทางไสยศาสตร์กล่าวว่
อนึ่ง คัมภีร์ปถมังแต่เดิมมีอยู่ห
สูตรการเขียนผงปถมังของเทพย
อังการะพินทุนาถังอุปปันนัง
คัมภีร์ปถมังเริ่มแรกด้วยกา
จากเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน
อันเรื่องราวกล่าวความพลายง
ทั้งขอมไทยได้สิ้นก็ยินดี เรียนคัมภีร์พุทธเพทพระเวทม
ปถมังตั้งตัวนะปัดตลอด แล้วถอนถอดถูกต้องเป็นล่องห
หัวใจกริดอิทธิเจเสน่ห์กล แล้วเล่ามนต์เสกขมิ้นกินน้ำ
อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ผู้ชำนาญทางไสยศาสตร์และโหร
ผงอิทธิเจ
อิธะเจ หรือ อิทธิเจของเทพย์ สาริกบุตร เป็นวิชาทางไสยศาสตร์ว่าด้ว
นอกจากนั้นชื่อวิชาอิธะเจยั
อิธะเจมีหลายตำรับด้วยกัน แต่ที่เป็นหลักสำคัญจะตั้งต
ผงที่ได้จากการเขียนและลบอั
สูตรการทำผงอิธะเจ ของเทพย์ สาริกบุตร
ผงอิธะเจ เป็นวิชาไสยศาสตร์ไทยโบราณอ
จากนั้นผู้กระทำกล่าวคำนมัส
สำหรับแท่งดินสอที่ใช้เขียน
การทำผงอิธะเจจะอ้างสูตรพระ
สูตรมูลกัจจายนะนี้ทางไสยศา
ผงดินสอพองที่ได้จากการเขีย
ผงนี้เพียงทิ้งให้ถูกตัวผู้
ผงอิธะเจนี้เมื่อทำสำเร็จแล
สูตรเขียนผงอิทธิเจและผงปถม
ผงอิทธิเจและผงปถมัง เป็นผง ใช้สำหรับสร้างพระพิมพ์ ประกอบด้วยสูตรการเขียนผง ผงอื่นๆ เช่น ว่านนางกวัก ว่านเพชรน้อย ว่านเพชรใหญ่ ว่านเพชรกลับ เศษพระชำรุด ใบลานที่เขียนพระไตรปิฎกนำม
สูตรเขียนผงอิทธิเจและผงปถม
สูตรผงปถมํ ของวัดระฆัง คือ วิธีการสร้างผงวิเศษมีวิธีด
ซึ่งถือว่าเป็นผงศักดิ์สิทธ
เมื่อได้ผง “ ปถมัง ” แล้ว นำผงนี้มาปั้นเป็นดินสอ ตากแห้ง แล้วนำแท่งดินสอชอล์ดที่เกิ
นำผงอิธะเจมาปั้นเป็นแท่งชอ
หากแตกต่างกันที่สูตรในการเ
นำผงตรีนิสิงเห อันเกิดจากหลอมรวมสูตรทั้ง ๕ มาเป็นหนึ่งเดียวจากนั้นสมเ
นอกจากนี้ก็จะมีข้าวสุก ดินสอพอง กล้วย โดยมีน้ำตังอิ๊วเป็นตัวประส
ผงมหาราช มีอานุภาพทางเสน่ห์ ชายเห็นชายทัก หญิงเห็นหญิงรัก เหมาะสำหรับการค้าขาย และเข้าหาผู้ใหญ่ จะได้รับการเอ็นดูให้การส่ง
ผงพุทธคุณ มีอานุภาพป้องกันสิ่งอัปมงค
ผงตรีนิสิงเห มีอิทธิคุณทางด้านมหาอำนาจ สามารถล้างอาถรรพณ์ น้ำมันพราย สยบอิทธิฤทธิ์ของภูติผีปีศา
cr:แสน พรหมลือ
Post a Comment