เคล็ดวิชา อาตมัน ทำไมบูชาเช่าเครื่องรางมาก็ใช้ไม่ได้ผล
เคล็ดวิชา อาตมัน
เชื่อว่าหลายๆคนคงจะมีความคิดบางช่วงว่า ทำไมบูชาเช่าเครื่องรางมาก็หลายที่ ทำไมถึงไม่เกิดผลแบบคนอื่นๆ ทำไมยังเห็นผลแบบครึ่งๆกลางๆ หรือแทบจะไม่เห็นผลเลย ที่ไหนที่ว่าดีๆแรงๆ แพงแค่ไหนก็ยอมเสียเงิน เพราะหวังอยากได้ประสบการณ์แบบคนนั้นคนนี้บ้าง ขอบอกว่าตราบใดที่ยังมีความคิดแบบนี้ ยังมองถึงเครื่องรางของขลัง วัตถุมงคลว่าขอแค่ได้ครอบครอง แล้วจะได้ทุกอย่างตามความต้องการ ตามที่บอกไว้ในสรรพคุณ อิทธิคุณเครื่องรางชิ้นนั้นๆ ก็ยากที่จะเห็นผลอะไรแบบชัดเจนครับผม
ไหนๆก็เพิ่งจะจัดส่งลูกอมสูบสาว พรุ่งนี้หลายๆท่านก็คงจะได้ครอบครองกันแล้ว ขอนำเคล็ดสำคัญนี้มาสาธยายขยายความ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับผู้ครอบครองหรือแม้จะไม่ได้ครอบครองทุกท่าน ไม่อยากให้ทุกท่านเสียเงินบูชาเครื่องรางกันแบบไม่ได้อะไร ใช้เครื่องรางแล้วต้องเกิดผล เมื่อเช่นนั้นแล้วถึงจะได้มีความต้องการอยากเช่าหาของใหม่เรื่อยๆ เพราะปัจจุบันก็อย่างที่เห็นๆกัน ตลาดเครื่องรางเริ่มซบเซากันเรื่อยๆ เพราะน้อยที่ ที่จะอธิบายให้คนได้เข้าใจถึงวิธีใช้กันอย่างถูกวิธี
ก่อนอื่นอธิบายความหมายของคำว่า อาตมัน อาตมัน แปลตามตัวว่าตัวเรา
คำว่า อาตมา ก็มาจากคำว่าอาตมันนี่ล่ะครับผม คำว่าอาตมัน เดิมแล้วเป็นหลักของพราหมณ์ ที่มีอยู่สองอย่างคือ อาตมัน(ตัวของเรา) ปรมาตมัน(ตัวตนของพระผู้เป็นเจ้า) สองสิ่งนี้แยกออกจากกันเหล่าพราหมณ์จึงปฎิบัติ แสวงหาหนทางที่จะกลับไปรวมกับพระเป็นเจ้า ตามความเชื่อที่ว่าเราล้วนเกิดมาเพื่อหาหนทางกลับไปเป็นหนึ่งเดียวพระเป็นเจ้า (ตรงกับหลักนิพพานของพุทธ)
ทีนี้มาถึงว่าอาตมันมาเกี่ยวข้องกับการใช้เครื่องราง ทางไสยเวทย์ได้ยังไง
อธิบายแบบง่ายก็คือการ หลักวิชาอาตมันคือให้มั่นใจในตัวเอง ให้เคารพในตัวเอง พระเป็นเจ้า เทพเทวา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายไม่อาจกระทำการใดๆได้ หากว่าเราไม่เป็นผู้ลงมือซะก่อน ท่านเพียงแค่ให้พลังมาแต่ไม่อาจทำให้สำเร็จได้ หากว่าเราไม่ได้เป็นผู้ลงมือกระทำ ดังนั้นเราจึงเป็นส่วนสำคัญที่สุด ในการทำให้สิ่งต่างๆเกิดขึ้น ปฎิมากรรม เทวสถานต่างๆ ก็ล้วนมาจากหลักความคิดอาตมันนี่เองล่ะครับ ลัทธิอาตมันเชื่อกันว่ามนุษย์มีความสามารถที่จะสื่อหาและร้องขอสิ่งใดๆจากพระเป็นเจ้าได้ และพระเป็นเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องประทานให้ตามที่ขอ โดยเราใช้ความพยายาม ใช้เครื่องบรวงสรวงสังเวย เป็นการแลกเปลี่ยนกับพลังต่างๆ ไม่ได้รับขอพลังเหล่านั้นมาฟรีๆ เมื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์รับเอาเครื่องเซ่นสังเวยของเราไปแล้ว ก็ต้องช่วยในคำอ้อนวอนของเรา
ฉะนั้นแล้ว ก่อนอื่น ขจัดความคิด ความไม่มั่นใจเหล่านี้ออกไปให้หมด หากคุณไม่หล่อ ก็พยายามหาวิธีให้ตัวเองดูดี เพราะคนหล่อกับคนดูดี มันคนล่ะความหมายกันครับ คนไม่หล่อก็สามารถทำให้ตัวเองดูดีได้ ทำยังไงก็ได้เพื่อให้คนอื่นพูดออกมาว่า แต่ดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน แบบนั้นล่ะครับผม เชื่อมั่นตัวเองพึงระลึกเสมอว่า มีแต่เพียงตัวเราเท่านั้นที่จะทำให้เราเจอประสบการณ์ต่างๆได้ เชื่อมั่นในเครื่องรางของขลัง เชื่อมั่นในครูบาอาจารย์ เชื่อมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะไม่มีประโยชน์เลยหากคุณยังไม่เชื่อมั่นตัวเองซะก่อน กฎแห่งโลกความเป็นจริง Winner Take All คนชนะกอดความสำเร็จพร้อมนางงาม ส่วนคนแพ้นอนกอดความเดียวดายอยู่กับบ้าน เลือกเอาว่าจะแพ้ตั้งแต่ยังไม่ลองสู้ หรือแพ้แต่ก็ไม่ท้อ สู้ต่อจนกว่าคุณจะชนะ
เชื่อก็เอาไปใช้ ไม่เชื่อก็ปล่อยผ่าน พิจารณาเอาเองครับผม เพราะผมพิสูจน์ด้วยตัวเองมาแล้ว ถึงได้กล้ามาเขียนให้อ่านครับผม
cr -สมิงเดชา ฤษเวทย์ คนธรรมดาผู้ใช้เวทย์แห่งฤาษี-
เชื่อว่าหลายๆคนคงจะมีความคิดบางช่วงว่า ทำไมบูชาเช่าเครื่องรางมาก็หลายที่ ทำไมถึงไม่เกิดผลแบบคนอื่นๆ ทำไมยังเห็นผลแบบครึ่งๆกลางๆ หรือแทบจะไม่เห็นผลเลย ที่ไหนที่ว่าดีๆแรงๆ แพงแค่ไหนก็ยอมเสียเงิน เพราะหวังอยากได้ประสบการณ์แบบคนนั้นคนนี้บ้าง ขอบอกว่าตราบใดที่ยังมีความคิดแบบนี้ ยังมองถึงเครื่องรางของขลัง วัตถุมงคลว่าขอแค่ได้ครอบครอง แล้วจะได้ทุกอย่างตามความต้องการ ตามที่บอกไว้ในสรรพคุณ อิทธิคุณเครื่องรางชิ้นนั้นๆ ก็ยากที่จะเห็นผลอะไรแบบชัดเจนครับผม
ไหนๆก็เพิ่งจะจัดส่งลูกอมสูบสาว พรุ่งนี้หลายๆท่านก็คงจะได้ครอบครองกันแล้ว ขอนำเคล็ดสำคัญนี้มาสาธยายขยายความ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับผู้ครอบครองหรือแม้จะไม่ได้ครอบครองทุกท่าน ไม่อยากให้ทุกท่านเสียเงินบูชาเครื่องรางกันแบบไม่ได้อะไร ใช้เครื่องรางแล้วต้องเกิดผล เมื่อเช่นนั้นแล้วถึงจะได้มีความต้องการอยากเช่าหาของใหม่เรื่อยๆ เพราะปัจจุบันก็อย่างที่เห็นๆกัน ตลาดเครื่องรางเริ่มซบเซากันเรื่อยๆ เพราะน้อยที่ ที่จะอธิบายให้คนได้เข้าใจถึงวิธีใช้กันอย่างถูกวิธี
ก่อนอื่นอธิบายความหมายของคำว่า อาตมัน อาตมัน แปลตามตัวว่าตัวเรา
คำว่า อาตมา ก็มาจากคำว่าอาตมันนี่ล่ะครับผม คำว่าอาตมัน เดิมแล้วเป็นหลักของพราหมณ์ ที่มีอยู่สองอย่างคือ อาตมัน(ตัวของเรา) ปรมาตมัน(ตัวตนของพระผู้เป็นเจ้า) สองสิ่งนี้แยกออกจากกันเหล่าพราหมณ์จึงปฎิบัติ แสวงหาหนทางที่จะกลับไปรวมกับพระเป็นเจ้า ตามความเชื่อที่ว่าเราล้วนเกิดมาเพื่อหาหนทางกลับไปเป็นหนึ่งเดียวพระเป็นเจ้า (ตรงกับหลักนิพพานของพุทธ)
ทีนี้มาถึงว่าอาตมันมาเกี่ยวข้องกับการใช้เครื่องราง ทางไสยเวทย์ได้ยังไง
อธิบายแบบง่ายก็คือการ หลักวิชาอาตมันคือให้มั่นใจในตัวเอง ให้เคารพในตัวเอง พระเป็นเจ้า เทพเทวา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายไม่อาจกระทำการใดๆได้ หากว่าเราไม่เป็นผู้ลงมือซะก่อน ท่านเพียงแค่ให้พลังมาแต่ไม่อาจทำให้สำเร็จได้ หากว่าเราไม่ได้เป็นผู้ลงมือกระทำ ดังนั้นเราจึงเป็นส่วนสำคัญที่สุด ในการทำให้สิ่งต่างๆเกิดขึ้น ปฎิมากรรม เทวสถานต่างๆ ก็ล้วนมาจากหลักความคิดอาตมันนี่เองล่ะครับ ลัทธิอาตมันเชื่อกันว่ามนุษย์มีความสามารถที่จะสื่อหาและร้องขอสิ่งใดๆจากพระเป็นเจ้าได้ และพระเป็นเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องประทานให้ตามที่ขอ โดยเราใช้ความพยายาม ใช้เครื่องบรวงสรวงสังเวย เป็นการแลกเปลี่ยนกับพลังต่างๆ ไม่ได้รับขอพลังเหล่านั้นมาฟรีๆ เมื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์รับเอาเครื่องเซ่นสังเวยของเราไปแล้ว ก็ต้องช่วยในคำอ้อนวอนของเรา
ลัทธิวิชาอาตมัน ตรงกับคาถาอาคมตรงที่คาถาบทต่างๆเน้นเรื่องการปลุกตัว ปลุกความมั่นใจในตัวเอง เช่นบางส่วนของคาถาขุนแผนชมตลาด
โอม สิทธิฟ้าฟื้นจำเริญศรี ศรีกูงามคือฟ้าหน้ากูงาม คือพระแมน แขนกูงามคือพระณารายณ์ ฉายกูงามคือพระอาทิตย์ ฤทธิ์กูงามคือพระจันทร์สาวในสวรรค์หันหน้ากูก็อยู่บ่ได้ โดยเคล็ดมีอยู่ว่าให้ท่องก่อนจะเข้าไปหาสาวใด แล้วจะทำให้มีผลทางด้านเสน่ห์อย่างรุนแรง แท้ที่จริงมันคือการให้กำลังใจตัวเองอย่างหนึ่งนั่นเอง ทำให้ตัวผู้ท่องมั่นใจในตัวเองกล้าเข้าหา กล้าเข้าคุย แล้วพลังลี้ลับทั้งหลายจึงได้ช่วยเสริมอีกแรง ไม่มีคาถามหาเสน่ห์ใดๆ ที่ท่องแล้วอยู่เฉยๆจะมีสาววิ่งเข้ามาหาโดยที่ไม่รู้จัก ล้วนแต่ต้องทำความรู้จักกล้าเข้าหา กล้าเข้าคุยก่อนทั้งสิ้น คาถาทั้งหลายจึงจะเกิดผล
ดังนั้นหากคุณยังคิดว่าใช้เครื่องรางเสน่ห์แล้วยังคิดว่า เราไม่มีแฟน ไม่มีคนรัก เพราะว่าเราไม่หล่อ ไม่รวย หน้าที่การงานไม่ดี ฯ หากยังขจัดความคิดเหล่านี้ออกไปไม่ได้ ก็ยังไม่สามารถใช้เครื่องรางใดๆให้เกิดผลได้อย่างเต็มที่ครับ เพราะยังมีความรู้สึกเหล่านี้จากจิตใต้สำนักมาขวางพลังงานต่างๆ จากวัตถุมงคลทั้งหลาย ทำให้ออกผลไม่ได้เต็มที่ เพราะตัวเราเท่านั้นคือต้นกำเนิดที่จะทำให้วัตถุมงคล เครื่องรางทั้งหลายเกิดผล ลำพังแค่ห้อยอยู่เฉยๆ เครื่องรางทำอะไรไม่ได้แน่ๆ
โอม สิทธิฟ้าฟื้นจำเริญศรี ศรีกูงามคือฟ้าหน้ากูงาม คือพระแมน แขนกูงามคือพระณารายณ์ ฉายกูงามคือพระอาทิตย์ ฤทธิ์กูงามคือพระจันทร์สาวในสวรรค์หันหน้ากูก็อยู่บ่ได้ โดยเคล็ดมีอยู่ว่าให้ท่องก่อนจะเข้าไปหาสาวใด แล้วจะทำให้มีผลทางด้านเสน่ห์อย่างรุนแรง แท้ที่จริงมันคือการให้กำลังใจตัวเองอย่างหนึ่งนั่นเอง ทำให้ตัวผู้ท่องมั่นใจในตัวเองกล้าเข้าหา กล้าเข้าคุย แล้วพลังลี้ลับทั้งหลายจึงได้ช่วยเสริมอีกแรง ไม่มีคาถามหาเสน่ห์ใดๆ ที่ท่องแล้วอยู่เฉยๆจะมีสาววิ่งเข้ามาหาโดยที่ไม่รู้จัก ล้วนแต่ต้องทำความรู้จักกล้าเข้าหา กล้าเข้าคุยก่อนทั้งสิ้น คาถาทั้งหลายจึงจะเกิดผล
ดังนั้นหากคุณยังคิดว่าใช้เครื่องรางเสน่ห์แล้วยังคิดว่า เราไม่มีแฟน ไม่มีคนรัก เพราะว่าเราไม่หล่อ ไม่รวย หน้าที่การงานไม่ดี ฯ หากยังขจัดความคิดเหล่านี้ออกไปไม่ได้ ก็ยังไม่สามารถใช้เครื่องรางใดๆให้เกิดผลได้อย่างเต็มที่ครับ เพราะยังมีความรู้สึกเหล่านี้จากจิตใต้สำนักมาขวางพลังงานต่างๆ จากวัตถุมงคลทั้งหลาย ทำให้ออกผลไม่ได้เต็มที่ เพราะตัวเราเท่านั้นคือต้นกำเนิดที่จะทำให้วัตถุมงคล เครื่องรางทั้งหลายเกิดผล ลำพังแค่ห้อยอยู่เฉยๆ เครื่องรางทำอะไรไม่ได้แน่ๆ
ฉะนั้นแล้ว ก่อนอื่น ขจัดความคิด ความไม่มั่นใจเหล่านี้ออกไปให้หมด หากคุณไม่หล่อ ก็พยายามหาวิธีให้ตัวเองดูดี เพราะคนหล่อกับคนดูดี มันคนล่ะความหมายกันครับ คนไม่หล่อก็สามารถทำให้ตัวเองดูดีได้ ทำยังไงก็ได้เพื่อให้คนอื่นพูดออกมาว่า แต่ดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน แบบนั้นล่ะครับผม เชื่อมั่นตัวเองพึงระลึกเสมอว่า มีแต่เพียงตัวเราเท่านั้นที่จะทำให้เราเจอประสบการณ์ต่างๆได้ เชื่อมั่นในเครื่องรางของขลัง เชื่อมั่นในครูบาอาจารย์ เชื่อมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะไม่มีประโยชน์เลยหากคุณยังไม่เชื่อมั่นตัวเองซะก่อน กฎแห่งโลกความเป็นจริง Winner Take All คนชนะกอดความสำเร็จพร้อมนางงาม ส่วนคนแพ้นอนกอดความเดียวดายอยู่กับบ้าน เลือกเอาว่าจะแพ้ตั้งแต่ยังไม่ลองสู้ หรือแพ้แต่ก็ไม่ท้อ สู้ต่อจนกว่าคุณจะชนะ
เชื่อก็เอาไปใช้ ไม่เชื่อก็ปล่อยผ่าน พิจารณาเอาเองครับผม เพราะผมพิสูจน์ด้วยตัวเองมาแล้ว ถึงได้กล้ามาเขียนให้อ่านครับผม
cr -สมิงเดชา ฤษเวทย์ คนธรรมดาผู้ใช้เวทย์แห่งฤาษี-
Post a Comment