ทำไมศาลเจ้าจีนบางแห่งจึงมีรูปปั้นเจ้าแขกอยู่ข้างใน?

 ตามปกติโดยทั่วไปนั้น รูปปั้นเจ้าแขกที่อยู่ในศาลจีนเหล่านั้น คือ เจ้าที่ หรือ ที่คนจีนเรียกว่า ถู่ตี้กง (土地公) หรือนา/ดาโต๊ะกง นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นศาลของคนจีนแซ่ Guo (郭),Ding (丁),Jin (金) และ Pu (蒲) ศาลเจ้าที่มีรูปปั้นเจ้าแขกอยู่นั้นอาจจะไม่ใช่ ศาลเจ้าที่ แต่เป็นศาลบรรพบุรุษของตระกูล

กว่า 200 ปีมาแล้วที่ชาวจีนหุยทั้ง 4 ตระกูลเป็นชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในมณฑลฮกเกี้ยน (Fujian) ต้องพยายามทำตัวผสมผสานกลืนกลายกับชาวจีนฮั่นซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ที่มีมากกว่าหลายร้อยเท่า เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรง จนในที่สุด พวกเขาเริ่มละทิ้งคำสอนของศาสนาอิสลามและหันไปรับวัฒนธรรมของชาวจีนฮั่นและบริโภคเนื้อสุกร
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัจจุบันลูกหลานของพวกเขาส่วนใหญ่จะไม่ได้เป็นมุสลิมเหมือนบรรพบุรุษอีกต่อไป แต่ยังคงรักษาพิธีกรรมและความเชื่อบางอย่างเอาไว้อย่างเหนียวแน่นจนกลายเป็นประเพณีที่ต้องรักษาสืบทอดต่อๆ กันไปจากรุ่นสู่รุ่น
กล่าวคือ หากมีใครคนใดคนหนึ่งในครอบครัวของพวกเขาเสียชีวิตลง คนในครอบครัวและญาติสนิทจะต้องงดเว้นจากการบริโภคเนื้อสุกรเป็นเวลา 100 วัน 49 วัน หรือ 7 วัน (แล้วแต่ความเคร่งของแต่ละบ้าน) ทั้งนี้เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ผู้เสียชีวิตและบรรพบุรุษ



อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน มีผู้ยึดถือธรรมเนียมปฏิบัตินี้น้อยลงทุกวัน ส่วนใหญ่จะถือปฏิบัติแค่ 7 วันเท่านั้น แต่ยังคงเคร่งครัดในเรื่องของการจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มที่จะใช้สำหรับการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ โดยมีหลักปฏิบัติว่า เมนูเซ่นไหว้จะต้องไม่มีหมูและเหล้าเป็นอันขาด เพื่อไม่ให้ปากของบรรพบุรุษต้องแปดเปื้อนมลทิน ส่วนใหญ่นิยมใช้เนื้อวัว เนื้อแกะ อาหารทะเลและผลไม้แทน และนิยมใช้น้ำชาแทนเหล้า
โดยในระหว่างการตั้งศพ 3-7 วันนั้น จะมีการอัญเชิญคัมภีร์อัลกุรอานโบราณเขียนด้วยมือจากมัสยิดในหมู่บ้านต้าซาน (Da Shan) มาวางไว้บนแท่นบูชาข้างร่างของผู้เสียชีวิตตลอดเวลาจนกว่าจะเสร็จพิธี โดยจะมีการจุดธูปและเปิดหน้ากลางของคัมภีร์เอาไว้ เพื่อให้ผู้เสียชีวิตได้เชื่อมต่อความสัมพันธ์กับบรรพบุรุษ
อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีผู้เสียชีวิตพร้อมกันหลายรายในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน เนื่องจากอัลกุรอานโบราณในหมู่บ้านมีเหลืออยู่แค่ 2 เล่ม ทางญาติพี่น้องอาจจะไปขอยืมอัลกุรอานแบบพิมพ์จากมัสยิดในหมู่บ้านใกล้เคียง หรือ ในบางกรณี (ที่พอจะหาได้) อาจจะเชิญอาฮง (阿訇) หรืออิหม่ามมาอ่านอัลกุรอานให้ผู้เสียชีวิตฟังจนจบทั้งเล่ม

ไม่มีความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.